ประวัติกีฬาแฮนด์บอล
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาแฮนด์บอล
กีฬาแฮนด์บอล มีที่มาจากประเทศเยอรมนี
โดยนาย Konrad Koch ครูพละศึกษาคนหนึ่งแต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก
จนกระทั่งปี พ.ศ. 2447 (ค.ศ. 1904) กีฬาแฮนด์บอลก็ถูกพัฒนาขึ้นในทวีปยุโรป
และกำหนดกติกาขึ้นโดยอ้างอิงจากกติกาของกีฬาฟุตบอลเป็นหลัก ซึ่งเป็นการดัดแปลงกีฬาฟุตบอลมาเล่นด้วยมือแทน
เดิมใช้ผู้เล่นทีมละ 11 คน แต่ลดลงเหลือทีมละ 7 คนแทน เนื่องจากผู้เล่นมีจำนวนมากจนเกินไปทำให้เล่นไม่สะดวก
จากนั้นจึงค่อย ๆ แพร่หลายเรื่อยมา
ในปี พ.ศ. 2471 (ค.ศ. 1928) แฮนด์บอลถูกนำไปสาธิตในงานกีฬาโอลิมปิก
และถูกบรรจุเข้าเป็นหนึ่งในรายการการแข่งขันกีฬาระดับชาติเมื่อปี พ.ศ. 2474
(ค.ศ.1931) และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายจนถูกบรรจุเข้าเป็นชนิดกีฬาการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก
เมื่อปี พ.ศ. 2479 (ค.ศ. 1936) ก่อนที่จะเจอกับเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่
2 จนความนิยมลดลง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) ก็ได้มีการแก้ไขกติกาแฮนด์บอลใหม่
ด้วยการนำเอากติกาของกีฬาฟุตบอล และกีฬาบาสเก็ตบอลมาผสมกัน
เพื่อฟื้นฟูความนิยมกีฬาแฮนด์บอลให้กลับมาอีกครั้ง
ปัจจุบันกีฬาแฮนด์บอลกลายเป็นกีฬาที่นิยมกันไปทั่วโลก
ประวัติแฮนด์บอลในประเทศไทย
หลังจากที่กีฬาแฮนด์บอลนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกแล้ว
ประเทศไทยก็เริ่มนำเอากีฬาแฮนด์บอลเข้ามาเมื่อปี พ.ศ. 2482 (ค.ศ. 1939) โดย อาจารย์กอง
วิสุทธารมย์ อดีตอธิบดีกรมพลศึกษาในขณะนั้น
ซึ่งในตอนนั้นยังกติกาแฮนด์บอลยังต้องมีผู้เล่นทีมละ 11
คน จึงทำให้ไม่สะดวก
และไม่เป็นที่นิยมในไทยมากนัก
จนกระทั่งปี พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) อาจารย์ชนิต
คงมนต์ ได้บรรจุกีฬาแฮนด์บอลเข้าสอนในโรงเรียนฝึกหัดครูพลานามัย
และวิทยาลัยพลศึกษาอื่น ๆ ก่อนที่จะแพร่หลายไปยังโรงเรียนต่าง ๆ
จนกลายเป็นหลักสูตรบังคับของชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเมื่อปี พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975) และใช้กติกาการแข่งขันแบบสากลเมื่อปี
พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) และเป็นที่นิยมในประเทศไทยในที่สุด
กติกาแฮนด์บอล (แบบย่อ)
สนามแข่งขัน
ขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว 40 เมตร กว้าง 20 เมตร
มีเส้นรอบสนามและเขตประตู โดยประตูจะต้องมีขนาดสูง 2 เมตร
กว้าง 3 เมตร ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่ง
มีพื้นที่รอบสนามห่างจากเส้นขอบสนามอย่างน้อย 1 เมตร
ห่างจากหลังประตู 2 เมตร
ลูกบอล
ต้องทำจากหนังหรือวัสดุสังเคราะห์รูปทรงกลม
ผิวไม่สะท้อนแสงและไม่ลื่น สำหรับผู้ชายลูกบอลต้องมีขนาดเส้นรอบวง 58-60 เซนติเมตร หนักประมาณ 425-475 กรัม สำหรับผู้หญิงลูกบอลต้องมีขนาดเส้นรอบวง 54-56
เซนติเมตร หนักประมาณ 325-400 กรัม และต้องมีลูกบอลสำหรับการแข่งขัน 2 ลูก เมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้วจะเปลี่ยนลูกบอลไม่ได้
นอกจากมีเหตุผลอันสมควร
ผู้เล่น
ทีมหนึ่งต้องส่งตัวผู้เล่น 12 คน (รวมผู้เล่นสำรอง) และลงสนามได้ 7 คน คือ ผู้เล่น 6 คน ผู้รักษาประตู 1 คน โดยสามารถเปลี่ยนตัวเข้าเล่นได้ทุกเวลา
และสามารถเปลี่ยนตัวกลับเข้าในสนามใหม่ได้
โดยผู้เล่นจะต้องสวมเสื้อทีมที่ติดหมายเลข 1-20 ไว้ที่เสื้อ
โดยมีขนาดตัวเลข สูงอย่างน้อย 20 เซนติเมตร กว้างอย่างน้อย 10 เซนติเมตร สีของตัวเลขตัดกับเสื้ออย่างชัดเจน สวมใส่รองเท้ากีฬา
และห้ามใส่เครื่องประดับทุกชนิด
วิธีการเล่น
ใช้มือจับ ขว้าง โยน ลูกบอล ส่งต่อกันกับผู้เล่นในทีมตนเอง
เพื่อขว้างบอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้าม
ห้ามใช้ร่างกายส่วนที่ต่ำกว่าหัวเข่าลงไปโดนลูกบอล
ผู้เล่นสามารถถือลูกบอลไว้ในมือได้ไม่เกิน 3 วินาที
ขณะถือลูกบอลสามารถก้าวขาได้ไม่เกิน 3
ก้าว
ห้ามผู้เล่นดึงลูกบอลจากมือของฝ่ายตรงข้าม
ห้ามเข้าไปในเขตประตูของฝ่ายตรงข้าม
ใช้เวลาในการแข่งขันครึ่งละ 30 นาที พัก 10 นาที หากมีการต่อเวลาพิเศษจะเพิ่ม 2 ครึ่ง ครึ่งละ 5 นาที
การคิดคะแนน
หากสามารถขว้างบอลเข้าประตูฝั่งตรงข้ามได้จะคิดเป็น
1 คะแนนต่อ 1 ครั้ง
หากมีการทำเข้าประตูตนเองก็จะเสียคะแนนให้กับฝ่ายตรงข้าม
เมื่อหมดเวลาใครทำประตูได้มากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น